ท่อ PPR เป็นท่อพลาสติกคุณภาพสูงที่มีความทนทานต่อความร้อนสูง ทนแรงดันน้ำได้สูง มีอายุการใช้งานยาวนานและสามารถใช้รวมกับท่อประปาชนิดอื่นได้ จึงทำให้ท่อ PPR นิยมนำมาใช้ติดตั้งระบบท่อน้ำดีทั้งในอาคารที่พักอาศัยและอาคารพาณิชย์
การใช้งานท่อ PPR เป็นท่อน้ำดี มีปัจจัยที่ต้องพิจารณา ดังนี้
ให้เลือกประเภทท่อให้เหมาะสมกับแรงดัน (เผื่อ safety factor 1.25) เช่น แรงดันสูงสุดของระบบ ประมาณ 3 บาร์ ให้เลือกท่อที่ทนความดัน 4 บาร์ เป็นต้น ในกรณีนี้ ให้เลือกใช้ DISMY PPR PN10 ก็เพียงพอ
อัตราการไหลต่อหน่วยเวลา (หน่วย M3/H หรือ LPM, GPM ต่างๆ เป็นต้น) ให้เลือกท่อที่มีขนาดหน้าตัดเหมาะสม ให้การไหลของน้ำ มีความเร็วประมาณ 1.8-2.5 m/s เพราะ หากความเร็วสูง จะทำให้ต้องใช้ pump ที่ออกแรงดันน้ำมาก (เปลืองไฟฟ้าเป็นอย่างมาก , ท่อสึกหรอ รั่วเร็ว, มีการสั่นสะเทือนของท่อ, มีเสียงดังขณะทำงาน) การคำนวณ สามารถใช้ตาราง ที่ แนะนำด้านล่างนี้เลือกขนาดท่อได้
ความยากง่ายในการติดตั้ง เช่น ติดตั้งในที่สูง ติดตั้งฝังผนัง เดินท่อที่จะต้องหุ้มฉนวน ในกรณีเหล่านี้ จำเป็นต้องให้ช่างติดตั้งที่มีประสบการ ทำการประเมินวิธีการและเลือกอุปกรณ์ เช่น ถ้าเป็นท่อ PPR ขนาดตั้งแต่ 2 นิ้ว (63mm) ควรใช้ stub end และ หน้าแปลน ในการช่วยต่อท่อเป็นช่วงๆ , หรือ เผื่อระยะสำหรับหุ้มฉนวน (ในกรณี ท่อน้ำเย็น หรือ ท่อน้ำร้อน) เป็นต้น ท่านสามารถ ปรึกษา เรโน เทค ผู้จำหน่าย DISMY PPR ได้ โดยการ แอดไลน์ @ranotech เพื่อสอบถาม
อุณหภูมิของน้ำในท่อ หากน้ำมีอุณหภูมิต่ำ หรือ สูง ก็จะมีปรากฏการณ์ ท่อหด หรือ ยืด (Thermal Expansion) จึงจำเป็นต้องติดตั้งตามคู่มืออย่างเคร่งครัด
การสั่นสะเทือนในท่อ เป็นเรื่องที่ถูกคำนึงถึงค่อนข้างน้อย แต่หากติดตั้งแล้ว มีปัญหาท่อสั่นสะเทือน จะมีปัญหาน่ารำคาญ ถึงขั้นร้ายแรงตามมา เช่น เสียงดังตอนน้ำไหลในท่อ อาจทำให้นอนไม่หลับ หรือ เกิดความรำคาญใจ ไม่สบาย เป็นต้น สาเหตุมาจากการคำนวณเลือกใช้ขนาดท่อไม่ถูกต้อง , ติดตั้ง pipe support น้อยเกินไป, ไม่มีอุปกรณ์ลดแรงดันในท่อที่ปล่อยน้ำจากที่สูง (โดยเฉพาะตึกสูง โรงแรมสูงหลายชั้น) เป็นต้น